top of page
Search
Admin

ปุ๋ยอินทรีย์เคมี ในสวนอินทรีย์: การใช้ให้เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมี

Updated: Apr 2

เปรียบเทียบ ปุ๋ยอินทรีย์ และ ปุ๋ยเคมี

ลักษณะ

ปุ๋ยอินทรีย์

ปุ๋ยเคมี

วัตถุดิบ

วัตถุดิบทางชีวภาพหรือธรรมชาติ

วัตถุดิบที่ผลิตโดยกระบวนการเคมี

สารอาหารพืช

มีปริมาณสารอินทรีย์สูง เช่น กรดอะมิโน, วิตามิน, แร่ธาตุ

สามารถให้สารอาหารแบบเฉพาะเจาะจงได้ เช่น ไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P), และโพแทสเซียม (K)

ความรวดเร็วในการสลายตัว

ลำเอียงต่อกระบวนการย่อยสลายของจุลินทรีย์ในดิน

สลายตัวเร็วกว่า และผลกระทบต่อสภาพดินมากกว่า

ผลผลิตและคุณภาพพืช

ผลิตต่อเนื่องช้ากว่า แต่ส่งเสริมรากและความแข็งแรงของพืช

ผลผลิตมากกว่า แต่อาจทำให้พืชมีความอ่อนแอต่อโรคและแมลงมากขึ้น

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ผลกระทบน้อยกว่า ไม่สะสมสารเคมีในดินหรือน้ำ

ผลกระทบต่อคุณภาพน้ำในลำธารหรือน้ำบาดาล และสามารถสะสมสารเคมีในดินได้



ปุ๋ยอินทรีย์เคมี คือ อะไร?

โดย ทั่วไป นั้น...

ปุ๋ยอินทรีย์เคมี (Organic Fertilizer) คือ ปุ๋ยที่ผลิตจากวัตถุดิบทางชีวภาพหรือธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยจากปลา, ปุ๋ยจากสัตว์, ปุ๋ยจากพืช และวัสดุอื่น ๆ ที่สามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ และมีปริมาณสารอินทรีย์สูง ซึ่งประกอบไปด้วยสารอินทรีย์หลากหลายชนิด เช่น กรดอะมิโน, วิตามิน, แร่ธาตุ เป็นต้น

ปุ๋ยอินทรีย์เคมีมีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของดิน ปรับปรุงโครงสร้างดิน และสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืช โดยปุ๋ยอินทรีย์เคมีช่วยเพิ่มปริมาณสารอินทรีย์ในดิน ซึ่งช่วยเป็นแหล่งอาหารสำหรับจุลินทรีย์ในดิน และส่งเสริมกระบวนการย่อยสลายของวัสดุอินทรีย์ นอกจากนี้ ปุ๋ยอินทรีย์เคมียังช่วยลดการสูญเสียของน้ำในดิน สร้างโครงสร้างดินที่ร่วนซุยและอุดมสมบูรณ์ และช่วยเพิ่มการเกิดและการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในดินเพื่อส่งเสริมกระบวนการสังเคราะห์แสง ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญในการสร้างอาหารของพืช


พ.ร.บ. ปุ๋ย พ.ศ. 2550

ขออธิบายให้เข้าใจถึงความหมายของ "ปุ๋ยอินทรีย์เคมี" ตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. 2550 (ประมวลกฎหมายแก้ไขใหม่ล่าสุด) ซึ่งอาจมีการแก้ไขในปัจจุบัน คำว่า "ปุ๋ยอินทรีย์เคมี" ที่พบในประมวลกฎหมายในปี 2550 นั้นไม่ได้ถูกนิยามโดยตรงในพระราชบัญญัติ แต่พระราชบัญญัติมีการจัดหมวดหมู่และกำหนดเกณฑ์สำหรับการจัดหมวดหมู่ปุ๋ยต่าง ๆ

ปุ๋ยอินทรีย์เคมี (Organic chemical fertilizer) อาจเป็นการผสมผสานระหว่างปุ๋ยอินทรีย์ (Organic fertilizer) และปุ๋ยเคมี (Chemical fertilizer) โดยที่ปุ๋ยอินทรีย์เคมีนี้อาจมีส่วนประกอบที่เกิดจากวัตถุดิบทั้งชีวภาพและไม่ชีวภาพ หรืออาจประกอบด้วยสารปุ๋ยเคมีที่ผ่านกระบวนการมาตรฐานเพื่อให้ได้สารปุ๋ยที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม คำว่า "ปุ๋ยอินทรีย์เคมี" นั้นไม่ได้ถูกนิยามอย่างชัดเจนในพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. 2550


5 สิ่ง ที่ต้องรู้ในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมี

ในสวนอินทรีย์, การใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด แม้ว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีอาจจะมีความเข้มข้นกว่าวิธีการปลูกแบบอินทรีย์เท่าไหร่ก็ตาม แต่การเรียนรู้และการจัดการให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ใช้ปุ๋ยได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

นี่คือ การจัดการในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีในสวนอินทรีย์:

  1. การศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับปุ๋ยอินทรีย์เคมี: การมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับปุ๋ยอินทรีย์เคมีเป็นสิ่งสำคัญ เริ่มต้นด้วยการศึกษาวิสัยทัศน์และคุณสมบัติของปุ๋ยอินทรีย์เคมี รวมถึงประโยชน์และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ทราบกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีในสวนอินทรีย์เพื่อให้การใช้งานเป็นไปตามหลักการและมาตรฐานที่กำหนดไว้

  2. การเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีที่เหมาะสม: หลังจากได้รับความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับปุ๋ยอินทรีย์เคมี ต่อไปคือการเลือกใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมกับพืชและสภาพดินในสวนของคุณ พิจารณาตัวชี้วัดและส่วนผสมของปุ๋ยอินทรีย์เคมีเพื่อให้ตรงกับความต้องการของพืชและประสิทธิภาพของดินในการเติบโต ระมัดระวังในการใช้ปุ๋ยเกินกว่าที่จำเป็น เพราะอาจส่งผลเสียต่อคุณภาพของดินและสิ่งแวดล้อม

  3. การปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมี: การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีในสวนอินทรีย์ ระบุปริมาณที่เหมาะสมของปุ๋ยและเวลาที่เหมาะสมในการใส่ปุ๋ย การแบ่งปริมาณปุ๋ยให้เป็นรอย และการใส่ปุ๋ยในระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้พืชได้รับสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

  4. การจัดการออกซิเจนในดิน: ปุ๋ยอินทรีย์เคมีสามารถช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินในสวนอินทรีย์ได้ การใช้ปุ๋ยเคมีที่มีสารอินทรีย์ช่วยให้เกิดกระบวนการสลายตัวของสารอินทรีย์ในดิน ทำให้เกิดสารอินทรีย์ที่ช่วยสร้างสภาพดินที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืช ทั้งนี้อย่าลืมการรักษาความชื้นในดินอย่างเหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมี

  5. การตรวจสอบผลผลิตและประสิทธิภาพ: ความสำเร็จของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีในสวนอินทรีย์ต้องได้รับการตรวจสอบและประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบผลผลิตของพืชว่ามีการเจริญเติบโตและมีความสมดุลของธาตุอาหารหรือไม่ นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบคุณภาพของดินและสภาพสิ่งแวดล้อมในสวนเพื่อให้แน่ใจว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีสอดคล้องกับหลักการของสวนอินทรีย์และมีประสิทธิภาพในการผลิตอาหารอินทรีย์

สรุป การใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีในสวนอินทรีย์เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้ได้ผลผลิตที่มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด การศึกษา การเลือกใช้ การปฏิบัติตาม การจัดการสิ่งแวดล้อม และการตรวจสอบผลผลิตและประสิทธิภาพเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่จะช่วยให้สวนอินทรีย์ของคุณเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และสร้างผลผลิตที่ดีที่สุด


72 views
bottom of page